แต่ไหนแต่ไรมานั้น คนส่วนใหญ่มักจะมีความเข้าใจผิดๆว่า การที่แชมพูนั้นยิ่งมีฟองมากเท่าไหร่ ก็จะสามารช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะสะอาดมากเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันใช่หรือปล่าว วันนี้เราเลยจะมาอธิบายให้ได้รู้กันว่า แชมพูที่มีฟองเยอะหรือฟองน้อยแบบไหนจะทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีกว่า มาดูกัน แชมพูที่มีฟองมาก ส่วนใหญ่จะมีการใส่สารลดแรงตึงผิว หรือ SLS ซึ่งสารตัวนี้ มีคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรกและไขมันให้ออกง่ายขึ้น แต่มีผลเสียคือเป็นประจุลบซึ่งจะทำให้เกล็ดผมเปิด และเจ้าสาร SLS ตัวนี้จะเข้าไปชะล้างความชุ่มชื้นและทำลายเกล็ดผมให้เสียหาย อีกทั้งมันยังมีความเป็นด่างค่อนข้างมากอีกด้วย อีกทั้งยังส่งผลต่อเนื่องหากเราใช้แชมพูที่มีการใส่สารลดแรงตึงผิว หรือ SLS เป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองของหนังศีรษะ เกิดอาการคัน มีรังแค และหนังศีรษะมัน เส้นผมหลุดร่วง เส้นผมแห้งแตกปลาย อีกด้วย แชมพูที่มีฟองน้อย หรือไม่มีฟอง ส่วนใหญ่แชมพูที่มีฟองน้อยจะเป็น แชมพูที่ทำจากสารสมุนไพร ซึ่งแชมพูประเภทนี้จะมีสารที่ได้จากธรรมชาติบางตัวที่มีฤิทธิ์เป็นสารลดแรงตึงผิวอ่อนๆ ซึ่งจะทำให้เกิดฟองเองตามธรร

การดูแลเส้นผมที่ถูกต้องนั้น อันดับแรกเลยเราต้องมาทำความรู้จักกับสภาพเส้นผมของเราให้ชัดเจนเสียก่อนว่า เส้นผมของเรานั้นมีลักษณะแบบไหน เราจะได้เข้าใจถึงการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งแต่ละวิธีการนั้นมีอะไรบ้าง เราลองมาดูกัน 1. เป็นคนผมแห้ง ปัญหาจากภายในนั้น อาจเกิดมาจาก ต่อมไขมันของหนังศีรษะผลิตไขผิวหนังออกมาน้อยเกินไปเลยทำให้เส้นผมแห้ง ส่วนปัญหาจากภายนอกนั้น อาจเกิดจากแสงแดด ความร้อน หรือจากการดัด การยืด การทำสี ไม่ควรใช้แชมพูสระผมที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งคนที่มีลักษณะเส้นผมแห้งอยู่แล้วนั้น ไม่ควรที่จะสระผมทุกวัน และทุกการสระผมควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะจะทำให้ผมเสียชี้ฟูมากยิ่งขึ้นและแห้งเปราะบางมากกว่าเดิม ลักษณะของผมแห้ง หยาบกระด้าง ขาดเปราะง่าย ขาดน้ำหนักและความชุ่มชื้น จัดทรงยาก หากผมแห้งมากๆ อาจเกิดอาการผมแตกปลาย การดูแลผมแห้งเบื้องต้น 1. สระผมแค่วันเว้นวัน เพราะยิ่งสระบ่อยก็เป็นการล้างน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่บนหนังศีรษะ ทำให้ผมยิ่งแห้งเข้าไปใหญ่ 2. หลีกเลี่ยงการใช้ลมร้อนในการเป่าผม ควรเปลี่ยนมาใช้ลมเย็นในการเป่าผม ถึงจะแห้งช้ากว่ากันหน่อย แต่ผลดีที

การเลือกยาสระผมนั้นมีหลายปัจจัยที่เราจำเป็นต้องดู เช่น คุณสมบัติของยาสระผมยี่ห้อนั้นๆ หรือ สภาพเส้นผมของเรา ว่าเหมาะกับ ยาสระผมประเภทไหน ซึ่งในวันนี้ เราจะมาแนะนำถึง ยาสระผมแบบไหน !! ใช้แล้วไม่ทำร้ายเส้นผม กัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน 1. ยาสระผมที่ไม่ใส่สารเคมีอันตราย เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับสารอันตรายที่มักถูกใส่ในยาสระผมให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว แต่ในวันนี้เรารวบรวมทั้งหมดมาบอกกันเลยว่า สารอันตรายเหล่านั้นได้แก่ - สาร SLS - สาร ซิลิโคน - สารกันเสีย Paraben - สีสังเคราะห์ ซึ่งสามารถสังเกตเบื้องต้นได้ง่ายๆ ด้วยการพลิกฉลากหลังขวดดูนั่นเอง 2. ยาสระผมที่มีค่า PH ไม่เกิน 5.5 เพราะเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดกับสมดุลของความชุ่มชื้นของเส้นผมทั่วไป ถ้ายาสระผมมีความเป็นกรดมากเกินไป ผมของเราจะหลุดร่วง และถ้ามีความเป็นด่างมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดช่องว่างหรือรูพรุนบนหนังศีรษะ ส่งผลทำให้หนังศีรษะของเราอ่อนแอ 3. เลือกยาสระผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรสด ย้ำว่าต้องเป็น " ยาสระผมจากสมุนไพรสด " เท่านั้น เพราะว่า การนำสมุนไพรบางชนิดมาสกัดออกมาเป็นสารแล้วผสมลงในยาสระผมนั้น อาจได้ปร

การนำสรรพคุณจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ มาใช้ในการรักษา บำรุง หรือใช้ประโยชน์ต่างๆนั้น เป็นสิ่งอยู่คู่กับการดำรงชีวิตของมุษย์มาอย่างเนิ่นนาน ซึ่งในบทความนี้ เราจะพูดถึง 5  สรรพคุณ จากธรรมชาติสู่การบำรุงเส้นผม ซึ่งเราจะได้รู้กันว่า ธรรมชาติ สร้างอะไรมาบ้างที่จะมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้น ของเรา ให้แข็งแรง ดกดำ เงางาม  1. มะกรูด ( Bergamot ) มะกรูดมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคและขจัดแบคทีเรียบนเส้นผมและหนังศีรษะช่วยให้สะอาดและมี สุขภาพดี ป้องกันผมร่วง รังแคและอาการคันศีรษะ และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมทำให้ผมนุ่มลื่น 2. ขมิ้นชัน ( Turmeric ) สารเคอร์คูมิน ในขมิ้นชันมีฤทธิ์ ในการต่อต้านเชื้อรา ลดการอักเสบและอาการแพ้  จึงทำให้ขมิ้นชันสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจาก การแพ้และเชื้อราบนหนังศีรษะ ซึ่งก่อให้เกิด อาการคันและอาการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของผมร่วงและรังแคได้  3. น้ำมันมะกอก ( Olive Oil ) น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ซึ่งช่วยขจัดสารอนุมูลอิสระออกจากเส้นผม และหนังศีรษะช่วยปกป้องรากผมให้แข็งแรงและ ป้องกันผมร่วงทำให้เส้นผมมีสุขภาพด