นอกจากปัญหาผมร่วง ผมหงอกแลัว อีกหนึ่งปัญหากวนใจ คงหนีไม่พ้นปัญหา " รังแค " ซึ่งปัญหา รังแค ไม่ได้แค่ทำให้เราใส่เสื้อสีดำไม่ได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ทรมานเพราะอาการคันและทำให้หนังศีรษะมันเกินบ้างแห้งเกินบ้าง   สาเหตุการเกิดรังแค 1. เชื้อรา 2. ฮอร์โมน 3. ภาวะร่างกายอ่อนเพลีย ความเครียด 4. โภชนาการที่ไม่ดี 5. สารเคมีจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ 6. การเกาหนังศีรษะแรงๆ เวลาสระผม 7. กรรมพันธุ์ ซึ่งจริงๆ ก็อาจจะมีสาเหตุเพิ่มเติม อีกเช่น การผลัดเปลี่ยนเซลผิว เพราะหนังศีรษะของเราจะมีการผลัดเปลี่ยนเซลผิวใหม่ทุกๆ 28 วัน เหมือนกับผิวหนังบริเวณอื่นๆ เมื่อเซลเก่าที่ตายแล้วถูกผลัดออกไปก็จะสร้างเซลใหม่ขึ้นมา แต่ถ้าการผลัดเซลผิดปกติไป ก็จะเกิดรังแคตามมาได้ วิธีการป้องกันรังแค 1. สระผมอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ผมหมักหมมและไม่ยอมสระผมเป็นเวลาหลายวัน เพราะความสกปรกเป็นตัวบ่มเพาะเชื้อโรคชั้นดี 2. ไม่ควรใช้น้ำอุ่นสระผม การใช้น้ำอุ่นสระผมจะทำให้หนังศีรษะแห้งและลดการเป่าผมด้วยความร้อน เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำลายน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะ เป็นผลให้หนังศีรษะสูญเสียควา

เนื่องจากมีคำถามเข้ามากันอย่างมากมายว่า Miss Mary ช่วยรักษาผมแตกปลายได้มั้ย ซึ่งความจริงนั้นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมของ Miss Mary มีสรรพคุณในการช่วยฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี จึงแน่นอนว่า Miss Mary นั้นสามารถช่วยรักษาอาการผมแตกปลายได้อย่างแน่นอน แต่ในวันนี้เราจะมาแนะเคล็ดลับ การกำจัดผมแตกปลายในวิธีอื่นเพิ่มเติมเข้าไปด้วย แต่จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน 1. เล็มปลายผม การใช้กรรไกรเล็มปลายผมออก เพื่อตัดเส้นผมที่แห้งเสียออกไป นับเป็นวิธีป้องกันและทางออกที่ดีที่สุดของการแก้ปัญหานี้เลยก็ว่าได้ ข้อแนะนำคือ ทุกๆ 6-8 สัปดาห์ ควรจะเล็มผมออกประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร ซึ่งการเล็มผมนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยขจัดผมแตกปลายเพียงอย่างเดียว มันยังช่วยให้เส้นผมของคุณยาวเร็วขึ้นอีกด้วย 2. ใช้ครีมนวดทุกครั้ง หลังจากการเล็มผมนั้น เส้นผมของคุณก็จะเข้าสู่โหมดที่พร้อมจะได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นทุกครั้งหลังสระผม ควรจะใช้ครีมนวดผมที่ทำจากสมุนไพรสดอย่างสม่ำเสมอ 3. อย่าล้างผมด้วยน้ำอุ่นในครั้งสุดท้าย ในตอนที่คุณล้างผมก่อนที่จะสระผมนั้น คุณสามารถใช้น้ำอุ่นในการล

สงกรานต์ผ่านพ้นไปไม่กี่วัน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสภาพเส้นผมที่อาจแย่ลง ในวันนี้เราเลยจะมาเผย 2 ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะที่คนส่วนใหญ่ประสบพบเจอหลังจบเทศกาลสงกรานต์ พร้อมมีเคล็ดลับการแก้ไขมาแนะนำกัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน 1. ผมเสียผมแห้งเพราะแดดแรงมาก แน่นอนว่าการเล่นสงกรานต์นั้นย่อมหนีไม่พ้นแสงแดดเป็นแท้แน่นอน ซึ่งเราได้เคยเขียนถึง ปัญหาของแสงแดดที่มีต่อเส้นผม  [ อ่าน!!แสงแดดเจ้าปัญหา ทำเส้นผมเสียโดยไม่รู้ตัว ]  ซึ่งการตากแดดเล่นน้ำทั้งวันนั้นทำให้ผมเสีย จนบางทีผมอาจจะเสียจนเปลี่ยนสีกลายเป็นสีน้ำตาล พร้อมกับสภาพแห้งกรอบที่ตามมา การฟื้นฟูเบื้องต้น การตัดผมส่วนที่แห้งและเสียออกไปคือวิธีแก้ผมแห้งเสียที่ไวและได้ผลมากที่สุด โดยอาจจะตัดออกไปประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วรอจนผมยาวใหม่ และหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม อาทิ การหนีบ การเป่าผมด้วยลมร้อน และการใช้ครีมนวดผมหลังการสระทุกครั้งก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากใช้อย่างสม่ำเสมอเส้นผมก็จะกลับมาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 2. ความชื้นสะสมจนเป็นเชื้อรา สาเหตุอาจเกิดจากบางคนใส่หมวกไปเล่นน้ำทั้งวันแล้วเกิดทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเปียกชื้

อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาล สงกรานต์ ที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว แต่เคยรู้กันมั้ยว่าการออกไปเล่นน้ำสงกรานต์นั้น เราต้องเอาเส้นผมและหนังศีรษะของเราออกไปสู้กับแสงแดดโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเจ้าแสงแดดนี้แหละคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมของเราเสียได้ แต่เพราะอะไรนั้นเรามาดูกัน เราแทบจะพูดได้เลยว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงเจ้าแสงแดดที่คอยจะแผดเผาเส้นผมและหนังศีรษะของเราได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลา 12.00 - 15.00 คือช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด ซึ่งสิ่งที่อันตรายแฝงมาในแสงแดดนอกจากความร้อนนั้นก็คือเจ้ารังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดนี่แหละ เพราะมันจะส่งผลต่อเส้นผมชั้นนอกในลักษณะเดียวกับการฟอกสี ทำให้โปรตีนเคราตินในเส้นผมถูกทำลายในที่สุด และยังไม่เพียงเท่านั้น ปกติแล้วเกล็ดผมของเราจะเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม แต่เมื่อเจอแสงแดด เกล็ดผมจะได้รับการทำลาย ส่งผมให้เกิดอาการเส้นผมแห้งและสีผมเกิดอาการซีดจางตาม หากเส้นผมโดดแดดเป็นเวลานานๆจะส่งผลเสียดังนี้ 1. เส้นผมเปราะ หักง่าย ทำให้เกิดการขาดหลุดร่วง 2. เส้นผมหยาบกร้านไม่นุ่มสลวย 3. เส้นผมทนต่อแรงดึงน้อยลง 4. อาจทำให้สีของเส้นผม