6 สิ่งที่ควรทำ !! เพื่อให้เส้นผมสุขภาพดี

โดย




สิ่งที่เราควรทำเพื่อให้เส้นผมสุขภาพดีนั้นมีมากมายหลากหลายวิธี แต่ในวันนี้เราจะมายกตัวอย่าง 6 วิธีหลักๆ ที่สามารถทำตามได้อย่างง่ายๆ เพื่อให้เส้นผมของเราสุขภาพดี มีชีวิตชีวา ในทุกๆวัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
ผมเปียกควรซับ อย่าเช็ด
หลายคนคงไม่คุ้นชินกับการที่บอกว่า ให้ซับผมเวลาผมเปียกอย่างแน่นอน แต่รู้มั้ยว่าการเช็ดผมเส้นผมที่เปียกน้ำเป็นอะไรที่อ่อนแอถึงขีดสุด การใช้ผ้าขนหนูเช็ดจึงอาจทำร้ายให้มันขาดและแตกหักได้ง่าย ให้ใช้มือบีบน้ำออกจากเส้นผมเบาๆ แล้วหาผ้าเนื้อนุ่มมาซับแทน เน้นว่าซับนะ ห้ามเช็ดหรือถูไปมา


เป่าผมให้แห้งสนิทก่อนนอน
เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากเราเข้านอนทั้งที่เส้นผมยังแห้งไม่สนิทนั้น จะส่งผลตามมาคืออาจทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ และทำให้ผมร่วงได้ แต่ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือควรหลีกเลี่ยงลมร้อนในการเป่าผมด้วยนะจ๊ะ เส้นผมของเราจะได้ไม่แห้ง กระด้าง
เล็มปลายผมทุก 2 เดือน
โดยปกติเส้นผมของคนเราจะยาวขึ้นเฉลี่ยวันละ 0.35 มิลลิเมตรอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะไว้ผมยาวหรือสั้นก็ตาม ปลายผมเสี่ยงต่อการแห้งเสียและแตกปลายง่ายเสมอ ดังนั้น ควรหมั่นเล็มปลายผมทุก 2 เดือนเพื่อช่วยป้องกันผมแห้งแตกปลาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอ่อนแอ และยังก่อให้เกิดปัญหาผมหลุดร่วงตามมาในระยะยาวได้อีกด้วย

เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนป้องกันผมร่วง หากเลือกใช้ยาสระผมที่ผสมสารป้องกันหรือกำจัดรังแคที่มีความเข้มข้นสูงอาจระคายเคืองต่อเส้นผมที่บอบบางและทำให้ผมร่วงง่ายกว่าเดิม ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะจะมีความอ่อนโยนแถมยังได้รับคุณค่าจากสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยบำรุงเส้นผมอีกด้วย

ห้ามอดอาหาร
เส้นผมก็ต้องการสารอาหารมาหล่อเลี้ยงไม่ต่างจากอวัยวะอื่นๆเหมือนกัน เพราะงั้นการอดอาหารก็ทำให้ไม่มีสิ่งที่มีประโยชน์มาเลี้ยงเส้นผม ทำให้ผมดูแห้ง ไร้ชีวิตชีวา แล้วก็ควรทานให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนและวิตามีน ซึ่งเป็นส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมทั้งนั้น

ทำใจให้สบาย อย่าเครียดให้มาก
ความเครียดอาจทำให้เกิดการบีบตัวของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะ ส่งผลให้เกิดการกดทับเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงบริเวณรากผม ทำให้เลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะน้อยลง อาจก่อให้เกิดปัญหาผมบางและหลุดร่วงง่ายในที่สุด แต่หากในวันนั้นเรามีเรื่องให้เครียดจริงๆ ลองใช้ 2 มือ นวดเบาๆ ให้ทั่วศีรษะ จะเป็นการช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหนังศีรษะและรากผมได้ดีขึ้น ผลที่ได้ก็คือสุขภาพผมดีที่จะตามมา

---------------------------------------------------------------
ราคาจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผม Miss Mary
ขนาด : 300 ml
ราคาขวดละ : 290 บาท

[ Product ] Miss Mary แชมพูจากสมุนไพรธรรมชาติ
http://missmaryhairproduct.blogspot.com/2018/06/product-miss-mary.html

[ Product ] Miss Mary ครีมนวดผมจากสมุนไพรธรรมชาติ
http://missmaryhairproduct.blogspot.com/2018/06/product-miss-mary_12.html
---------------------------------------------------------------
ดูรีวิวผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง 
https://missmaryhairproduct.blogspot.com/2018/01/5-1.html
---------------------------------------------------------------
ช่องทางสั่งซื้อสินค้า 
Line@ : @missmary
Tel : 081-5718177Facebook : www.facebook.com/missmarynatural
Website : www.missmaryhairproduct.blogspot.com

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เชื้อราบนหนังศีรษะ เกิดจากสาเหตุอะไร

โดย
รูปภาพ
กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ กับสาระดีๆที่ Miss Mary นำมาฝากกันเป็นประจำทุกสัปดาห์  ช่วงนี้ฝนตกบ่อย อย่าลืมพกร่มติดตัวกันไว้ด้วย เส้นผมและหนังศีรษะของเราจะได้ไม่เปียกชื้นกันนะคะ ในวันนี้เรามีสาระดีๆ เกี่ยวกับ “ โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ ”  มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ส่วนสาเหตุการเกิดโรคและวิธีป้องกันจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันต่อเลยค่ะ โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ  เกิดจากเชื้อราที่เรียกว่า Tricophyton  และ Microsporum ซึ่งสาเหตุหลักๆของการเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะนั้นจะเริ่มจากการที่เราสระผมบ่อยจนหนังศีรษะแห้งหรือหนังศีรษะสั่งสมสิ่งสกปรกไว้มาก  จนส่งผลทำให้เกิด “ รังแค ”   เจ้ารังแคนี่แหละคือตัวการชั้นดี ซึ่งถ้ามีรังแคมากขึ้น มันก็จะไปอุดตันรูขุมขน ส่งผลทำให้รูขุมขนของเราไม่สามารถระบายไขมันออกมาได้ จนหนังศีรษะเกิดการอักเสบ ทำให้เชื้อราเติบโตขึ้น  อาการที่ส่อแววว่าจะเป็นโรคเชื้อราบนหนังศีรษะนั้นก็คือ จะเริ่มมีหนังศีรษะลอกหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ และมีอาการคัน ในบริเวณนั้น  จนทำให้เกิดผมร่วง และเกิดแผลเป็นสะเก็ด เวลาสระผมจะมีอาการแสบบ้าง หากปล่อยทิ้งไว้นาน จะส่งผลให้รุกรามจนเ
อ่านเพิ่มเติม

สีสังเคราะห์ ( Synthetic Colors ) ความสวยงามที่อาจก่อมะเร็ง

โดย
รูปภาพ
สีสังเคราะห์ คือ ? เป็นวัตถุปรุงแต่ง สังเคราะห์หรือสกัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้แต่งสี สีสังเคราะห์ เริ่มรู้จักครั้งแรกในปี ค.ศ. 1865 โดย Sir Willium Henry Perkin ได้ทำการสังเคราะห์สีอินทรีย์ใช้ผสมในอาหารขึ้นเป็นครั้งแรกในโทนสีม่วงแดง จนเริ่มมีบทบาทในกลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม ดั่งในปัจจุบัน ซึ่งสีสังเคราะห์นั้นจะมี 2 ประเภท คือ แบบที่ละลายด้วยน้ำ และ แบบที่ละลายด้วยน้ำมัน ซึ่งใน ปี ค.ศ. 1938 ได้มีประกาศกฎหมายฉบับหนึ่ง เรียกว่า Food Drug and Cosmetic มีเนื้อหาข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้สีสังเคราะห์ในอาหาร ยา และเครื่องสำอาง พร้อมกำหนดชื่อสีสังเคราะห์และเลขดัชนีสี (Colour Index Number) โดย European Economic Community (EEC) ใน 3 รูปแบบ คือ 1. FD & C Color เป็นสีสังเคราะห์ที่รับรองให้ใช้ในอาหาร ยา และ เครื่องสำอาง 2. D & C Color เป็นสีสังเคราะห์ที่รับรองให้ใช้ในยา และ เครื่องสำอาง 3. External D & C Color เป็นสีสังเคราะห์ที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร แต่ให้ใช้ได้เฉพาะยา และเครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น อันตรายของ สีสังเคราะห์ คือ ?
อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับง่ายๆ ป้องกันผมเสีย ภายหลังออกไปเล่นน้ำทะเล

โดย
รูปภาพ
สวัสดีค่ากลับมาเจอกันอีกแล้ว หลังจากที่คราวที่แล้ว แอดมินได้แนะนำ แชมพูและครีมนวดผม Miss Mary ชุดพกพาขนาด 100 ml รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลังปลดล๊อคไปแล้ว ( อ่านย้อนหลังได้ที่   https://missmaryhairproduct.blogspot.com/2020/09/miss-mary-mini.html )  แอดมินเลยคิดว่า ต้องมีคนไปเที่ยวทะเลแน่ๆเลย แอดมินเลยอยากจะมาแนะนำ เคล็ดลับง่ายๆ ในการป้องกันผมเสีย ภายหลังออกไปเล่นน้ำทะเล มาแนะนำกันค่า จริงๆแล้ว ในน้ำทะเลนั้นมีเกลือผสมอยู่ ทำให้เส้นผมแห้งกระด้างได้ แต่จริงๆ ตัวร้ายที่แท้จริงก็คือ แสงแดดนี่แหละ ซึ่งส่งผลร้ายดังนี้ 1. เส้นผมเปราะ หักง่าย ทำให้เกิดการขาดหลุดร่วง 2. เส้นผมหยาบกร้านไม่นุ่มสลวย 3. เส้นผมทนต่อแรงดึงน้อยลง 4. อาจทำให้สีของเส้นผมจางลง ซึ่งแสงแดดนั้น ส่งผลทำลายโครงสร้างโปรตีน คีราติน (Keratin) และเม็ดสีเมลานิน ในเส้นผม ซึ่งเม็ดสีเมลานินในเส้นผมจะช่วยปกป้องแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง  แต่เมื่อนานไปเม็ดสีเมลานินจะถูกทำลาย ดังนั้นในกรณีที่ตากแดดนานๆ จากผมสีดำจะค่อยๆ จางจนกลายเป็นสีน้ำตาล ซึ่งนี่แหละคือสัญญาณว่า ผมของเราเริ่มจะไม่ดีแล้วน้า เพราะฉะนั้นการป้องกันเบื้องต้น คือสิ่งที่เราจำเป็นต
อ่านเพิ่มเติม